ลูกสุนัข ที่เราจะเอามาเลี้ยงเราจะต้องดูแลน้องให้ดี เลี้ยงลูกสุนัขก็เหมือนกับเลี้ยงเด็ก เพราะว่าน้องนั้นพูดไม่ได้ อีกทั้งนิสัยของสุนัขเด็กนั้นก็ยังดื้ออีก อีกทั้งเราจะต้องใส่ใจและให้ความรักอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกสุนัขเติบโตอย่างสมบูรณ์แข็งแรง สมไว อีกทั้งยังทำให้น้องนั้นโตไปแล้วไม่ดื้อ และยังทำให้น้องแข็งแรงตั้งแต่วัยเด็กอีกด้วย
นำ ลูกสุนัข มาเลี้ยงอย่างไรให้น้องมีสุขภาพดี
ก่อนนำลูกสุนัขมาเลี้ยง เตรียมพร้อมสู่อนาคตอันแสนอบอุ่น การต้อนรับสมาชิกใหม่สี่ขา เปรียบเสมือนการเริ่มต้นบทใหม่ในชีวิต เต็มไปด้วยความสุข เสียงหัวเราะ และความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ ก่อนที่จะเปิดประตูต้อนรับลูกสุนัขสุดน่ารัก มีหลายสิ่งที่คุณต้องเตรียมพร้อมเพื่อสร้างรากฐานที่มั่นคงให้กับทั้งคุณและเจ้าตัวเล็ก
1. ศึกษาข้อมูล: รู้จักสายพันธุ์ที่ใช่
- ค้นหาข้อมูล: ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์ที่สนใจ เรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะนิสัย พลังงาน ความต้องการในการดูแล พื้นที่ที่เหมาะสม และค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
- เข้าใจความต้องการ: พิจารณาไลฟ์สไตล์ของคุณ คุณมีเวลาพาสุนัขไปเดินเล่น ออกกำลังกาย ฝึกวินัยมากแค่ไหน
- เลือกพันธุ์ที่เหมาะสม: เลือกสายพันธุ์ที่เข้ากันได้ดีกับไลฟ์สไตล์ของคุณ
- ตัวอย่าง: หากคุณอาศัยอยู่ในคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด พันธุ์ที่มีขนาดเล็ก เช่น ชิวาว่า ปั๊ก อาจเหมาะสมกว่าพันธุ์ใหญ่ เช่น โกลเด้น รีทรีฟเวอร์
2. เตรียมสถานที่: สร้างอาณาจักรของเจ้าตัวเล็ก
- จัดเตรียมพื้นที่: ปิดกั้นพื้นที่อันตราย เก็บของมีคม ยา สารเคมี
- มุมส่วนตัว: จัดเตรียมพื้นที่สำหรับนอนเล่น กินอาหาร
- อุปกรณ์จำเป็น: เตรียมอุปกรณ์ เช่น ชามอาหาร ชามน้ำ ที่นอน ของเล่น ปลอกคอ สายจูง
- ตัวอย่าง: จัดเตรียมตะกร้าบุด้วยผ้าหนานุ่มเป็นที่นอน
- วางชามอาหาร ชามน้ำในจุดที่สะอาด เข้าถึงง่าย
- เตรียมของเล่นหลากหลายประเภทเพื่อกระตุ้นพัฒนาการ
3. ตรวจสุขภาพ: วางใจได้กับสมาชิกใหม่
- พาไปพบสัตวแพทย์: พาลูกสุนัขไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์
- ตรวจสอบประวัติ: ตรวจสอบประวัติการฉีดวัคซีน
- ประเมินสุขภาพ: ตรวจหาพยาธิ ประเมินสุขภาพโดยรวม
- เอกสาร: ขอเอกสารประจำตัวลูกสุนัขจากผู้ขาย.
การดูแลลูกสุนัข
หลังจากเปิดประตูต้อนรับสมาชิกใหม่สี่ขา การดูแลลูกสุนัขอย่างถูกต้องคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาเติบโตอย่างแข็งแรง มีความสุข และเป็นเพื่อนที่ดีของคุณตลอดไป
1. โภชนาการ
- เลือกอาหารที่เหมาะสม: เลือกอาหารที่มีคุณภาพ เหมาะสมกับวัย สายพันธุ์ และสภาพร่างกาย
- ปริมาณอาหาร: แบ่งอาหารเป็นมื้อย่อยๆ หลายมื้อต่อวัน
- น้ำสะอาด: ให้ลูกสุนัขมีน้ำสะอาดสดใหม่เสมอ
- ปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อเลือกอาหารที่เหมาะสม
- แบ่งอาหารเป็น 3-4 มื้อต่อวัน
- วางชามน้ำในจุดที่ลูกสุนัขเข้าถึงได้ง่าย
2. สุขอนามัย
- ทำความสะอาด: ทำความสะอาดที่นอน ของเล่น และภาชนะอาหารเป็นประจำ
- อาบน้ำ: อาบน้ำให้ลูกสุนัขเมื่อจำเป็น
- แปรงขน: แปรงขนให้เป็นประจำ
- พยาธิและวัคซีน: พาไปถ่ายพยาธิและฉีดวัคซีนตามกำหนด
- ซักที่นอน ของเล่น ของใช้ของลูกสุนัขเป็นประจำ
- อาบน้ำให้ลูกสุนัขเมื่อขนสกปรก
- แปรงขนให้ลูกสุนัข 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
- พาไปถ่ายพยาธิทุก 3 เดือน ฉีดวัคซีนตามโปรแกรม
3. การฝึกวินัย
- ฝึกขับถ่าย: ฝึกขับถ่ายในที่ที่ถูกต้อง
- คำสั่งพื้นฐาน: ฝึกคำสั่งพื้นฐาน เช่น นั่ง หมอบ มา
- การเดินเล่น: พาไปเดินเล่น ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- การเล่น: เล่นกับลูกสุนัขเพื่อกระตุ้นพัฒนาการ
- พาลูกสุนัขไปที่เดิมหลังอาหาร น้ำ
- ฝึกคำสั่งพื้นฐานด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน
- พาไปเดินเล่น 2 ครั้งต่อวัน
- เลือกของเล่นที่กระตุ้นพัฒนาการ
4. การสังเกตพฤติกรรม
- สังเกตพฤติกรรม: สังเกตพฤติกรรมและอาการป่วย เช่น ซึมเศร้า เบื่ออาหาร อาเจียน ท้องเสีย
- พพบสัตวแพทย์: พาไปพบสัตวแพทย์เมื่อสงสัยว่าป่วย
- สังเกตการกินอาหาร การขับถ่าย
- พาไปพบสัตวแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ
5. ความรักและความเอาใจใส่
- ใช้เวลากับลูกสุนัข: ใช้เวลากับลูกสุนัข เล่นกับเขา ให้ความรักและความเอาใจใส่
- สร้างสายสัมพันธ์: ฝึกให้คุ้นเคยกับผู้คน สัตว์เลี้ยงอื่นๆ และเสียงต่างๆ
- ลูบตัว พูดคุย เล่นกับลูกสุนัข
- พาไปสวนสาธารณะ
- ฝึกให้คุ้นเคยกับเสียงต่างๆ